TRIP’LE x VIETNAM (South) เวียดนามใต้ผจญภัยก็ได้ Slow Life ก็ดี : DALAT / MUI NE / HO CHI MINH

สวัสดีค่ะ พวกเรา TRIP’LE เป็นผู้หญิง 3 คน ที่ทำงานประจำเป็นรองแต่ Part-time เป็นหลัก?!
เอ้ะ?? งาน Part-time เป็นหลักที่ว่านั่นก็คือ “การเดินทางท่องเที่ยว” นั่นเอง
เราแค่หลงใหลไปกับการได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ เลยอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆระหว่างการเดินทาง
เหตุการณ์สุดระทึก และความสนุกที่เกิดขึ้นในทริป ซึ่งคงจะดีไม่น้อยถ้าสิ่งที่เราได้แชร์ไปนั้น
จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ชอบสไตล์การท่องเที่ยวในแบบเรา แล้วไปสัมผัสพร้อมกันนะคะ


: เวียดนามใต้ ผจญภัยก็ได้ Slow life ก็ดี :

ที่เราเลือกไปเวียดนามใต้ เหตุผลเพียงเพราะทะเลทรายอย่างเดียวด้วยซ้ำนะตอนแรก
และเหตุผลที่รองลงมาต่างๆคือ
เป็นประเทศที่มีหลากหลายอารมณ์มารวมกัน
คือจะไปธรรมชาติ ป่าเขาก็ได้ ทะเลทรายก็มี
พอเข้าเมืองก็เจอร้านอาหาร คาเฟ่ฮิปส์ๆต่างๆ
ไปก็ง่าย นั่งเครื่องแปปเดียวก็ถึง

บอกเลยว่าครบรสจริงๆ

ตั๋วเครื่องบิน
จองตั๋วไป-กลับ ของ Air Asia
18 May 2016 : BKK > SGN
23 May 2016 : SGN > BKK

จองตั๋วจากโฮจิมินห์ไปดาลัด
โดยสายการบิน Vietjet Air
18 May 2016 : SGN > DLI : 19.50 pm. : 750 บาท

ค่าเงิน
10,000 ดอง = 15 บาท
*ทั้งนี้เรทเงินขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน*

การติดต่อสื่อสาร
ซิมการ์ด mobifone ราคา 130,000 VND
ประมาณ 200 บาท
ซิมการ์ด VIETTEL ราคา 290,000 VND
ประมาณ 450 บาท

การเดินทาง
แท็กซี่ : เริ่มต้นที่ 5,000 VND หรือเท่ากับ 7-8 บาท

กล้อง
Fuji :  xm-1 และ xa-2

18 May 2016
“ออกเดินทาง”

เราเลือกเดินทางตอนบ่ายเพราะ จริงๆจองตั๋วรอบเช้า แต่ไปจ่ายตังค์ไม่ทันจ้า!
พอดีใช้บริการจ่ายเงินที่ Counter Service ละนึกว่ามันภายใน 24 ชั่วโมง
ปรากฎว่าเค้ากำหนดแค่ 2 ชม. เลย #เงิบบบบบบบบบ. ไปตามสภาพ

ก็เลยได้ตั๋วรอบบ่ายมา ทำให้วันแรกไปถึงโฮจิมินก็เย็นแล้ว
พอถึงก็รีบไปเช็คอินโหลดกระเป๋าเพื่อขึ้นเครื่องต่อไปดาลัดโดยสายการบิน Vietjet Air (จองในเว็บ)
เพราะแพลนคือจะเที่ยวดาลัดก่อน ในระหว่างรอขึ้นเครื่องก็หิวกันมากๆ Popeye’s Chicken เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น

** เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… **
ด้วยความที่เราหิวโหยกันมากๆ เลยสั่ง Family set กันไปเลย แล้วค่อยมาหารกันทีหลัง
แต่สำหรับการใช้เงิน VND ครั้งแรกของพวกเรา มันไม่ง่ายขนาดนั้น…
เรายืนงงๆกัน 3 คน หน้าเค้าท์เตอร์ พนักงานก็บอกยอดรวมทั้งหมดมัน 380,000 vnd

คนแรกยังไม่หยิบเงินออก
คนที่สอง หยิบแบงค์ 100,000 VND ออกมา 4 ใบ
คนที่สาม หยิบแบงค์ 100,000 VND ออกมา 1 ใบ
(ตอนนี้รวมกันเป็น 500,000 VND)
ด้วยความเจ้าเล่ห์และฉับไวของผู้จัดการร้านที่มารับออเดอร์เรา
นางรีบคว้ามือมาหยิบแบงค์ 100,000
เป็นจำนวน 4 ใบ จากคนที่สอง และ
หยิบแบงค์ 100,000 1 ใบ จากคนที่ 3
แล้วรีบเก็บเข้าแคชเชียร์ในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาที
พอนางทอนเงินมาเท่านั้นแหละ…. ไม่ครบ ไม่ครบจริงๆ! รู้เลยว่า กูโดนแล้ววววว !!


► ดาลัด

“เมืองน่ารัก คึกคักเวลาเดินเล่น”

พอถึงดาลัดก็สามสี่ทุ่ม เราก็นั่ง Shutter Bus เข้าเมืองใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็รีบเข้าโรงแรมไปเก็บของ
ท้าวความเล็กน้อย..พอดีว่าเพื่อนที่ไปด้วยกันพักคนละโรงแรมกับเราพัก (แบ่งเป็น 2 กลุ่ม)
เดี๋ยวรีวิวทั้ง 2 โรงแรมให้เลยละกันโนะ!

ที่พัก
> โรงแรม Lu tan inn : คือเพราะไปเห็นใน Instagram มันน่ารักมากกกก
มีหน้าต่างเล็กๆ สีขาว ปลูกดอกไม้ในกระถางข้างหน้าต่าง มองออกไปก็เห็นเนินสนามหญ้าสีเขียว
ภาพเหมือนนิทานตอนเด็กๆเลย ห้องนอนกว้าง ไม่มีแอร์นะ เพราะอากาศเค้าเย็นตลอดทั้งปี
พนักงานบริการดีมาก มีอาหารเช้าให้เลือก 2 แบบคือ เฝอ กับ ขนมปังฝรั่งเศสเสิร์ฟพร้อมไข่
ตกคืนละประมาณ 2,000 บาท




> โรงแรม Tulip : อยู่ใจกลางดาลัด เป็นคล้ายๆตึกแถว สะอาดสะอ้าน พนักงานน่ารักดูแลดีมาก
ตรงข้ามเป็นร้าน Lien Hoa จะมีขายอาหารเช้า เบเกอรี่ , น้ำ นม ส่วนชั้น 2 มีขายอาหารพื้นเมือง เปิด 24 ชั่วโมง
แถมโรงแรมอยู่ใกล้ตลาด Cho Dalat อีกด้วย เรียกได้ว่าไม่อดตายแน่นอน555555555
ตกคืนละประมาณ 800 บาท
(ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ)


19 May 2016
“ตระเวนเที่ยวเมืองดาลัด”
ตื่นมาก็อย่าลืมไปซื้อนมดาลัดดื่มกันนะ ใครพลาดถือว่ามาไม่ถึง! #อร่อยคอนเฟิร์มมมม
เรามีทั้งหมด 6 คน เลยตัดสินใจเช่ารถแล้วให้เค้าพาเที่ยวตามที่เราลิสต์ไว้ดีกว่า
เราเช่ารถที่โรงแรม Tulip เหมาไปเลยคันนึง ค่าเช่ารถอยู่ที่ 200,000 VND/คน (ประมาณ 300 บาท/คน)

สถานที่ท่องเที่ยวดาลัด ตามที่เราลิสต์กันไว้
1.พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได่ (Bao Dai’s Summer Palace)





2.เครซี่เฮ้าส์ (Crazy House) (Hang Nga Guest House and Art Gallery)




3.น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfalls)
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้เล่นนะ คือรถราง (Roller Coaster) เห้ยยย สนุกอะ ติดใจเลย เล่นสองสามรอบแหน่ะ

4.สถานีรถไฟดาลัด (Dalat Train Station)


5.วัดตั๊กลัม (Truc Lam Pagoda)
การเดินทางไปวัดตั๊กลั้ม เราจะต้องนั่งกระเช้าข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งก่อน แล้วรถที่รับส่งเราเค้าจะไปรอฝั่งนู้นเลย
สถานที่ ที่ใกล้กับบริเวณวัดอีกแห่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำ คือ Tu yen lam lake
เป็นทะเลสาบที่สวยงามแห่งหนึ่งในดาลัดเลยนะ
เอารูปมายืนยันด้วยแหล่ะ
ไหว้พระเสร็จ ก็ให้เดินลงจากเขามานิดนึงตามทาง
และเพื่อนๆก็จะพบกับความเซอร์ไพร์สที่ไม่คิดว่าจะมีที่แห่งนี้อยู่







6.สวนดอกไม้เมืองหนาว (Dalat Flower Gardens)

หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวใกล้ๆ ไปร้านอาหาร ขี้เกียจไปเช่ามอเตอร์ไซต์เพราะไปกันหลายคน
ให้นั่งแท็กซี่กันไป เพราะค่าแท็กซี่เริ่มต้นแค่ 5,000 VND หรือเท่ากับ 7-8 บาทเองงง


20 May 2016
เช้าวันต่อมาในดาลัด เราก็ขึ้นไปเที่ยว Langbiang ก่อนเดินทางไปมุยเน่

การเดินทางไป Langbiang
ค่าแท็กซี่ = 100,000 VND หรือ 300 บาท เรามีทั้งหมด 6 คน = ตกคนละ 50 บาท
ค่ารถจี๊ปขึ้นลงเขา Langbiang = 40,000 VND / คน = ตกคนละ 60 บาท










แล้วเราก็กลับมาเก็บของเพื่อเตรียมตัวออกจากดาลัด ไป มุยเน่ ด้วยรถบัส
ซึ่งเค้าจะมารับหน้าโรงแรมเลย
ติดต่ออย่างไร?
ก็โรงแรมอีกเช่นเคยจ้า
บอกเค้าล่วงหน้า 1 วัน เค้าก็จะจัดหาให้
ค่ารถบัส = 130,000 VND / คน

นั่งรถบัสจากดาลัดตอนบ่าย เพื่อให้ไปถึงมุยเน่เย็น – – – -สลบ zZZ

► มุยเน่.
“ยิ่งกว่าฟ้าจรดทราย ก็ทะเลทรายมุยเน่นี่ล่ะ”

20 May 2016

และเราก็ได้นั่งรถบัสมาถึงมุยเน่เย็นๆ ลงรถปุ๊ปซื้อทัวร์ One day trip ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้
ค่าทัวร์ = 250,000 VND / คน / ไปเที่ยว 3 ที่
(ที่เที่ยวอยู่ด้านล่าง)
ทัวร์มุยเน่
คือจริงๆแล้วทัวร์ทะเลทรายเค้ามีให้เลือก 2 เวลาด้วยกันคือ..
– ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า
– ไปดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น

เราเลือกที่จะไปดู ‘พระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า’ เพราะบ่ายแก่ๆจะได้นั่งรถนอนยาวๆไปโฮจิมินห์เลย
ที่สำคัญไม่น่าจะร้อนเท่าบ่ายด้วย รวมถึงมุยเน่เที่ยววันเดียวก็น่าจะเก็บได้เยอะแล้วล่ะ
หลังจากซื้อทัวร์เสร็จ ก็ไปเช็คอินบ้านที่เราจะนอนกันในคืนนี้
เป็นบ้านที่เค้าเรียกว่า Minihouse ที่ชื่อว่า Van Nguyen Minihouse

ที่พัก
> Van Nguyen Minihouse : อยู่ห่างจากตัวเมืองมุยเน่ออกไปประมาณ 15 นาที
ที่พักนี้เป็นบ้านหลังติดๆกัน เราจองไว้ 1 หลัง มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องรับแขก ห้องครัวเล็กๆ
พร้อมมากก อยู่กันแบบอบอุ่น แต่! เราใช้ชีวิตอยู่ในนั้นไม่กี่ชั่วโมงหรอก
เพราะว่าตีสามก็ต้องตื่นแล้ววววววววว
ตกคืนละประมาณ 2,520 บาท เราไปกัน 6 คน ก็คนละ 420 บาท #ถูกมั่กกก
(แต่ขออภัยจริงๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู TT)

การเดินทาง
เราใช้รถแท็กซี่ในการโดยสารออกไปหาร้านอาหารตอนกลางคืน
ซึ่งอย่างที่เล่าไปข้างต้นว่าแท็กซี่ที่เวียดนามค่อนข้างถูก ถ้าไปกับเพื่อนหลายๆคนยิ่งคุ้มเลย
แต่ที่มุยเน่ รู้สึกว่าเรทแท็กซี่จะแพงกว่าเล็กน้อย คล้ายๆกับภูเก็ตบ้านเราที่เป็นเมืองท่องเที่ยว
มิเตอร์พุ่งเร็วเหมือนกัน

แต่ส่วนใหญ่มุยเน่ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นเมืองแห่งทะเลทราย เค้าจะขนส่งคนโดยใช้รถจี๊ป ตามภาพที่เห็น

ก่อนจะไปสัมผัสทะเลทรายที่เรารอคอยกันมานาน..ขอเล่าย้อนไปคืนวันนั้น เราก็ได้ออกไปหาอะไรกินกัน
ก็นั่งแท็กซี่หาไปหามา จนมาบรรจบอยู่ที่ร้าน Lamtong Restaurant ซัด Lobster สิครับ รออะไรร!!!!!!!

ร้านอาหาร
ร้าน Lamtong Restaurant > เค้าว่ากันว่า ถ้าใครมามุยเน่แล้วไม่มากินซีฟู้ดก็ถือว่ามาไม่ถึง
เพราะซีฟู้ดที่นี่ถูกม๊ากกกกกกกโดยเฉพาะล็อปสเตอร์ ตกตัวละแค่ 1,000,000+ VND ประมาณ 1,500 บาท
เราก็ไม่รอช้าที่จะสั่ง บอกเลยว่า ฟินสุดๆ เนื้อแน่นเต็มปากเต็มคำ อิ่มหนำกันท่วนหน้า มื้อนี้ไม่มีทางลืมแน่นอนนน

21 May 2016

ตี 4 ล้อหมุน…………. $#@*%

“ตระเวนเที่ยวมุยเน่”
1.ทะเลทรายขาว (White Sand Dunes)










2.ทะเลทรายแดง (Red Sand Dunes)


มีกระดานสไลด์เดอร์ให้เล่นด้วย




3.ซุยเตียน (Fairy Stream)



4.หมู่บ้านชาวประมง (Fishing Village)



บรรยากาศรอบๆ ก็จะเห็นรถจี๊ปจอด คือเป็นเรื่องธรรมดาของที่นั่นเลย น่ารักมากๆ

หลังจากเที่ยวครบทั้ง 3 ที่แล้วก็เตรียมตัว Check out ออกจากบ้านพัก
แล้วขึ้นรถนอน เดินทางไปโฮจิมินห์! ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมงได้ หลับลืมมมมมมมม

รถนอน
จองที่เดียวกับที่ซื้อทัวร์ One day Trip
เอาจริงเราชอบรถนอนนะ
ยืดขาได้สบาย มีผ้าห่มให้ มีน้ำเสิร์ฟ
มีห้องน้ำในรถด้วย

21 May 2016

►โฮจิมินห์.
“เมืองแห่งอรรถรส”

จากที่นอนในรถนอนมาประมาณ 5-6 ชั่วโมงจากมุยเน่ ในที่สุดเราก็ถึงโฮจิมินห์ตอนหัวค่ำ
ลากกระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก็ออกมาท่องราตรีที่โฮ (ขออนุญาติเรียกสั้นๆว่าโฮ)




ที่พัก
> Yellow House Saigon :
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาแค่นอนเอาแรง พอตื่นก็ออกไปตระเวน
ขอแนะนำที่นี่เลย เป็นโรงแรมเล็กๆ เข้าซอยไปประมาณ 300 เมตร ดีงามพระรามแปด
ห้องนอนไม่ใหญ่มาก ห้องน้ำโอเค เตียงนอนสบาย สะอาดสะอ้าน มีอาหารเช้าให้
ตกคืนละประมาณ 700 บาท
(ห้องนึงนอนได้ 2 คน ก็ตกคนละ 350 บาท)


“ท่องราตรี ณ โฮจิมินห์”
คืนแรกในโฮ เราก็บุกไปร้าน PHO2000 ตามคำร่ำลือ ที่เค้าว่ากันว่ามาโฮต้องกินร้านนี้
‘เห้ย ใช้ได้เหมือนกันแฮะ’ ร้านนี้มีอาหารพื้นเมืองหลายเมนู เมนูเฝอ คงจะเป็นเมนูหลักที่ควรสั่ง
ซึ่งเราสั่งเฝอไก่ และแกงกะหรี่ไก่ที่เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังฝรั่งเศส
บอกเลยว่าอร่อยม๊ากกก แต่ที่นี่ให้เยอะใช้ได้เลย เกือบกินไม่หมด


ปิดท้ายคืนแรกที่โฮด้วยการเดินชมเมืองในยามค่ำคืน สัมผัสแสงสีเสียงเล็กน้อย ก่อนจะลุยต่อในวันพรุ่งนี้..


แล้วเราก็เจอร้านไอศกรีมบุฟเฟ่ ก็เลยแวะทานซะหน่อย

22 May 2016
“ตะลุยโฮ”
ที่นี่คาเฟ่เยอะมาก ร้านอาหารแน่น
ที่เที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กัน สามารถเดินได้
แต่ถ้าอยากไปคาเฟ่ หรือร้านอาหารที่ไกลหน่อย
ก็ขึ้นแท็กซี่ได้เหมือนเดิม


ช้าก่อน! ไหนๆก็ลือกันเรื่องของแท็กซี่ชอบโกงในเวียดนามกันแล้ว
เราก็ไม่รอช้าที่จะตามกระแสไปกับเค้า จะอะไรล่ะ ก็โดนเหมือนกันน่ะสิ! คือคือออ..เรื่องมันมีอยู่ว่า..

เรานั่งแท็กซี่ไปร้านอาหารกัน
ค่าแท็กซี่ทั้งหมด 36,000 VND
ก็ยื่นเงินให้ 40,000 VND
แท็กซี่ก็บอก ’no no’ พร้อมกับยื่นมือมาหยิบแบงค์ 100,000 VND ในกระเป๋าตังค์

เห้ย..แบบนี้ก็ได้หรอ??

ละเราก็พยายามดันแขนเค้ากลับละบอก ’no no’ และพยายามจะอธิบายว่าเราให้เงินถูกแล้ว
หลังจากนั้นทุกคนลงจากรถ และเปิดประตูเกือบทุกบานเพื่อไปเจรจา (เป็นการป้องกันการขับหนีอย่างหนึ่ง555)
ซักพักนางคงคิดว่าโดนรุมแล้วแน่ๆ ก็เลยยอมแต่โดยดี #ร้ายกาจจริงนะพี่เนี่ย!!

*ข้อควรระวังเรื่องแท็กซี่*
ต้องละเอียดรอบคอบกันซักเล็กน้อยสำหรับการจ่ายเงิน ตรวจสอบยอดดูดีๆ
เก็บกระเป๋าตังค์ไว้ให้มิดชิด
จะจ่ายเงินก็ควรจ่ายให้เสร็จก่อน
พอถูกต้องแล้วก็ค่อยลงจากรถพร้อมกัน
หรือเวลาเรียกแท็กซี่
หากต้องให้เค้าดูทางโดยการยื่นโทรศัพท์มือถือให้เค้า
ไม่ควรยื่นผ่านกระจก
ควรเปิดประตูแล้วเอาตัวเข้าไปด้วย

สถานที่เที่ยวในโฮจิมินห์
1.ทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ (Reunification Palace)



2.โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Saigon Notre Dame Cathedral)



3.ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Central Post Office)

4.จัตุรัสโฮจิมินห์ (Tran Nguyen Hai Statue)


5.โรงละคร (Opera House)

จริงๆแล้วเราจะต้องจองตั๋วเพื่อเข้าไปชมการแสดง แต่ด้วยความที่เวลากระชั้นชิด
ทำให้เราไม่สามารถดูโชว์ได้
ผู้จัดการโรงละครเลยอาสาพาพวกเราเดินชมบรรยากาศภายในเป็นการปลอบใจแทน

สำหรับอาหารวันนี้ เราไปกินร้านอาหารพื้นเมืองเวียดนามแบบต้นตำรับที่มีชื่อว่า Nha hang ngon
คนเยอะเชียวล่ะ! อาหารอร่อย รสชาติดีเยี่ยม บรรยากาศการตกแต่งร้านเรียกว่าเก๋สุดดดด




ไหนๆก็คืนสุดท้ายแล้ว เราก็เลยไปซึมซับบรรยากาศของแหล่งวัยรุ่นย่าน Pham Ngu Lao กันซักหน่อย
หรือที่คนไทยเรียกฟาร์มงูเหลา นั่นเอง ที่นี่จะมีร้านอาหาร , ผับ , บาร์ , ร้านขายของฝาก , บริษัททัวร์ต่างๆ
แต่วันนี้ตามประสาวัยรุ่นอย่างเราๆ ก็ขอไปนั่งชิลล์กันซักหน่อย เราเลือกที่จะเข้าร้าน Champion Saigon
หลังจากสนุกกันเต็มที่แล้วระหว่างที่เดินกลับที่พักก็มีอีก 1 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
#ยังไม่หยุดพีคอีกหรอ?

!!! โดนกระชากกระเป๋า !!!

1 ในกลุ่มของเราโดนกระชากกระเป๋า!!! ในขณะที่เดินอยู่บนฟุตบาทด้วยซ้ำ
สติสตางค์ก็ไม่ค่อยจะมีกัน
คือมีมอเตอร์ไซต์คันนึงขับมาด้วยความเร็วสูง
เป็นผู้ชายคนเดียวไม่ใส่หมวกกันน็อคด้วยนาจา ขี่เข้ามาใกล้ๆพร้อมยื่นมือมากระชากกระเป๋าทันที
ด้วยความตกใจ แต่ก็สามารถดึงสติกลับมาได้ทัน เลยยึดคติประมาณว่า ‘ดึงไปกูดึงกลับ ไม่โกงเว้ย!’
พร้อมกับเสียงกรี๊ดใส่มอเตอร์ไซค์คันนั้น
ด้วยความสู้นางเลยรีบขี่หนีไปเลยจ้า
#โอ้ยยยยยยยยยยย #ประสบการณ์สุดระทึกในโฮจ้า #ขำสุดไรสุด

23 May 2016
“วันสุดท้ายในโฮจิมินห์”
เนื่องจากเราขึ้นเครื่องกลับตอนกลางคืน เลยมีเวลาเที่ยวอีกวันเต็มๆ
ก็เลยไปแวะตลาดเบนถันห์ (Ben Thanh Market)
แต่คนเวียดนามน่าจะเรียกว่า’เบนแท็ง’นะ
ที่นี่ของฝากเพียบบบบบบบบบบบบ
โดยเฉพาะกาแฟ ที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องกาแฟจริงๆ
มีทั้งกาแฟบด กาแฟ3in1 สาระพัดสูตร มีให้เลือกเต็มไปหมด นอกนั้นก็ชา , ชุดอ่าวใหญ่ , กี่เพ้า , เสื้อผ้า
, ของที่ระลึก รวมไปถึงของแห้งต่างๆเช่น ถั่ว , ผลไม้อบแห้ง , ลูกอมช็อคโกแล็ต
และที่สำคัญคนขายพูดไทยได้นะจ้ะ55555555
ราคานี่พูดแม่นเชียว

หลังจากนั้นเราก็ไปกินข้าว
และก็แวะคาเฟ่นั่งชิลล์กันก่อนเก็บของกลับ
ร้าน Bánh Canh Cua Nam Giao
ร้านอาจจะอยู่ในตรอกซอยเล็กน้อย แต่หาไม่ยาก
รู้สึกเราจะเสิร์ช google map แล้วเดินหาเอา ปิดมื้อสุดท้ายที่สวยงามเพราะอาหารอร่อยใช้ได้เลย
เอนจอยอาหารร้านนี้มากๆ รู้สึกทำถูกปากคนไทยเหมือนกันนะ หรือเพราะความหิวด้วยก็ไม่รู้5555
เมนูขนมจีน ชื่อว่า bun thit nuong
เมนูบั๊นแบ๊ว ชื่อว่า Bánh bèo tôm tươi


(เมนู บั๊นแบ๊ว)

คาเฟ่ M2C Modern Meets Culture
คาเฟ่สุดฮิปส์ จิบกาแฟ ทานขนม นั่งพักเม้ามอย
เป็นการต้อนรับยามบ่ายที่ดีมากกก





คาเฟ่ Slow&Chill Coffee
ส่วนตัวชอบร้านนี้ ตกแต่งแบบ minimal สีขาวทั้งร้าน
เครื่องดื่มก็อร่อย แต่อาจจะหาทางมาแบบงงๆนิดนึงเพราะร้านอยู่บนตึก
ซึ่งถ้าใครลองมาอาจจะคิดเหมือนกันว่า ไม่คิดว่าจะมีร้านแบบนี้อยู่ในตึกนี้แฮะ



อันนี้เป็นเมนู Choco Volcano
กับ Banana Strawberry and Yogurt
อร่อยอะ รสชาติดี เย็นชื่นใจ
เป็นการปิดทริปทิ้งท้ายด้วยของหวานเบาๆ
Happy Afternoon ก่อนกลับกรุงเทพ

และสุดท้าย สิ่งที่ทุกคนน่าจะรอคอยมากที่สุด
เรามีไกด์เรื่องของค่าใช้จ่ายหลักๆมาให้ดูด้วย
เผื่อเพื่อนๆจะได้แพลนทริปง่ายขึ้น
ปล.ตั๋วเครื่องบินอาจจะมีถูกกว่านี้นะ
พวกช่วงโปรโมชั่นทั้งหลาย
ได้ตั๋วถูกก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วเนอะ555

ก็จบทริปแล้วสำหรับ’เวียดนามใต้’
เป็นทริปที่มีหลายรสชาติมากจริงๆ
มีความหลากหลายไปยันสภาพอากาศที่เจอเลย
หนาว ร้อน ชื้น มาหมด
พูดเลยว่าเป็นประเทศที่ถ่ายรูปสนุกประเทศหนึ่งเลยนะ
ไม่ว่าจะเมืองไหนก็มีมุมฮิปส์ๆให้แชะภาพ
การเดินทางมาจากไทยก็ง่าย ตั๋วโปรโมชั่นก็เพียบเลย
เหมาะสำหรับนักเดินทางทุกประเภท
**แนะนำให้ลองมาดูกัน**
ที่สำคัญคือ ท่องเที่ยวง่ายสบายกระเป๋า อีกด้วย!

ไว้ใครที่ไปมาก็มาแชร์รูปภาพสวยๆให้พวกเราดูกันได้นะ มาแชร์ความสุขของนักเดินทางกัน
ยิ้ม

ขอบคุณทุกคนสำหรับการติดตามนะฮะ
เรา 3 คนขอฝากเนื้อฝากตัว
มีอะไรอยากแนะนำพวกเรา เราพร้อมรับทุกคำติชม
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันใหม่ทริปหน้า
ฝากติดตามด้วยน้าา
หัวเราะ


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *