/CHECK IN KANSAI/Kyoto > Hyogo > Wakayama > Shiga > Osaka
เกียวโต > เฮียวโงะ > วากายาม่า > ชิกะ > โอซาก้า
ใช้เวลาทั้งหมด 11 วันด้วยกันหลังจากที่ลงรูปให้ดูไปพลางๆใน Facebook แล้ว
ก็อยากจะมาเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมสักหน่อย
เกี่ยวกับการที่ได้แอบวาร์ปไปญี่ปุ่นมา !
ไปฟื้นฟูพลังงานในร่างกาย ให้ฮึบสู้กับการทำงานเฮือกสุดท้ายก่อนจะหมดปี 2016
หรืออาจจะเป็นไอเดียดีๆให้กับทริปปี 2017 ให้กับใครหลายๆคนก็ได้รีวิวครั้งนี้ เราจะไม่เน้นเรื่องการเดินทางว่าไปไงมาไง
แต่จะมาเน้นรูปที่เที่ยวแปลกใหม่ในแถบคันไซแทน
ซึ่งที่ๆเราไปเน้นออกไปนอกเมืองซะมากกว่า
แบบที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกัน
ก็เลยอดใจไม่ไหวที่จะบอกต่อว่า มันดียยยยยยยยยยยยยยยยย์ มากมายจริงๆ
ทำไมเลือกไปแถบคันไซ ? เพราะมันมีที่เที่ยวคูลๆ แอบซ่อนอยู่เต็มไปหมดไงล่ะ
ไม่เชื่อเดี๋ยวคอยดูววววววววว + การเดินทางก็ง่ายมากๆ
รถไฟทั่วราชอาณาจักรขนาดนั้น
สามารถดูได้จากเว็บ http://www.hyperdia.com/en/
จะเป็นตารางเวลารอบรถไฟ สถานีไหนต่อสถานีไหน หรือราคาเท่าไหร่
เค้าจะคำนวณขึ้นมาให้เสร็จสรรพเลย!! อ่ะพร้อมแล้ว ไปดูความคูลด้วยกันเล้ยย!
สำหรับใครที่อยากดูรูปเฉยๆ และอยากรู้แค่ชื่อสถานที่ งั้นคลิกเข้าไปที่ >
https://www.facebook.com/pg/tripleXanywhere/photos/?tab=album&album_id=1103140503087471 ได้เลย
ตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วไป-กลับ ของ Air Asia X
ราคา 10,640 บาท (ลงสนามบินคันไซ KIX)
การติดต่อสื่อสาร Pocket Wifi : Samurai Wifi
ราคา 885 บาท (1เครื่อง หาร 2 คน ทั้งหมด 11 วัน)
กล้อง : Fuji Xa-2 และ Iphone 6
>>K Y O T O<<
“เกียวโต”
เมืองแห่งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของญี่ปุ่น ความน่ารักมันอยู่ตรงที่
การรักษามรดกตกทอดมาจากรุ่นก่อนอย่างไม่เคอะเขิน
เทียบง่ายๆ คือการที่เห็นคนใส่ชุดกิโมโนออกมาเที่ยว
เดินมุ้งมิ้งกินไอติมกับเพื่อน ชี้นกชมไม้กันไป
น่ารักดีนะ!! ละใครว่าวัดน่าเบื่อ?
ต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ ไม่เชื่อ ลองดูสิ !
เราใช้เวลาอยู่ในเกียวโต 4 วัน โดยแบ่งไว้ว่าเป็น
ชิวๆที่เกียวโตช่วงบ่ายแถวๆ Ohara 1 วัน
Arashiyama 1วัน
Amanohashidate 1 วัน
Ine 1 วัน
สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตในแถบ Ohara
แถบนี้จะอยู่ชานเมืองของเกียวโต
ใช้เวลาเดินทางหน่อย นั่งรถเมล์ได้ แต่คุ้มกับการเดินทางจริงๆ เชื่อเถอะ
1. วัด Sanzen-in Temple
วัดนี้ข้างในใหญ่นะมีที่ให้เดินเล่นเยอะมาก
บรรยากาศร่มรื่น เราว่าต้นไม้เค้าสวยดีอะ
2. วัด Hosenin Temple
วัดนี้มีจุดพีคอยู่ที่มีต้นไม้ 700 ปี มีชา(ขมม๊ากก555)
และขนมให้เสริฟ์ให้กินทุกคน คือวิวดีมากจริงๆ
ให้นั่งบื้อๆซึมซับบรรยากาศทั้งวันยังได้เลย
สถานที่ท่องเที่ยวในเกียวโตที่ Arashiyama
1. Arashiyama Bamboo Grove
ที่นี่เหมือนเป็นแลนด์มาร์ค ทุกคนต้องมา555
ใครไม่รู้ของจริงเป็นยังไง ดูรูปอย่างเดียวไม่พอนะ ต้องมานะๆ
4. ร้าน Saganoyu Cafe
ก่อนที่เราจะไปขึ้นรถไฟ Romantic train
ก็ขอแวะคาเฟ่ก่อนซักหน่อย ร้านน่ารักกก แพนเค้กดี อยู่ใกล้สถานีรถไฟ
2. Sagano Romantic Train
รถไฟน่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น นั่งเพลินๆ กินลมชมวิว
แต่ถ้าไปเที่ยวตอนคนเยอะๆ อาจจะไม่น่ารักสักเท่าไหร่ เพราะคนจะเยอะมากๆ 5555
3.วัด Eikando
เราเข้าเมืองมาต่อ วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องดูใบไม้สีแดงมากๆแล้วเราก็อยากเห็นมากๆ
ก็จะรออะไรล่ะ..555 ที่นี่มีสวนและวัด มีที่ขึ้นเขาไปดูวิวด้วยเดินแปปเดียว ไม่เหนื่อยเลย สวยดีนะ
5.ร้าน Izuju
ร้านซูชิเจ้าในตำนาน อร่อย อร่อยมาก อร่อยจริงๆ
เค้าขายอยู่ไม่กี่เมนู ไม่มีน้ำจิ้มให้ด้วยนะ แต่อร่อยมาก บอกเลยว่าต้องไปลอง
“Amanohashidate”
ที่นี่อยู่ทางเหนือของเกียวโตไปอีก ซึ่งเดินทางยากนิดนึง ต้องนั่งรถไฟมา
คนไทยยังไม่ค่อยไปเที่ยวกัน แต่บอกเลยว่า ดี้ดีย์ มาเถอะะะะ..
เมืองนี้เป็นเมืองติดทะล วิวสวย และเงียบมากๆ ร้านค้าก็น้อย
5 โมงนี่ ปิดไหนอนกันหมดแล้ว.. เอ้านี่พูดจริงนะ !! 555
โรงแรม Ryokan Jinpuso
โรงแรมที่นี่ส่วนมากจะเป็นเรียวกังทั้งหมด ถูกแพงคละกันไป
แต่เราเลือกที่นี่เพราะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟที่สุด เดินทางง่าย
คาเฟ่ Joujou Cafe
เมืองเล็กๆแบบนี้ใครคิดว่าจะมีคาเฟ่ล้าา!!!
ปรากฏว่าร้านน่ารักมากๆ เดินออกจากสถานีรถไฟ เลี้ยวขวา เดิน 20 ก้าว ก็ถึงละ
“Ine”
เมืองนี้เขยิบขึ้นเหนือของ Amanohashidate ขึ้นมาอีกนิดนึง
ติดทะเลอีกเช่นกัน คนที่นี่ส่วนมากมีอาชีพเป็นประมง
ที่เค้ามาเที่ยวกัน ก็คือมาดูบ้านที่ตั้งอยู่ติดกับทะเล
มีเรือจอดอยู่ด้านล่าง ดูวิถีชีวิตของคนที่นี่ ก็ดูเงียบสงบดี
>>H Y O G O<<
“เฮียวโงะ”
จังหวัดใหญ่มากกกก แต่ทุกคนมักจะรู้จักแต่เมืองโกเบ
เพราะฉะนั้น… วันนี้มีอีก 3 ที่สุดมหัศจรรย์จะมาชวนทุกคนไป
พูดเลยถ่ายรูปมันส์มากกก เพราะมีสารพัดสรรพสิ่งที่ไม่คิดว่าญี่ปุ่นก็มีแบบนี้!
เราใช้เวลาอยู่ในเฮียวโงะ 2 วัน เที่ยวแบบ One day Trip
แล้วมานอนที่โอซาก้า โดยแบ่งไว้ว่าเป็น
Himeji Castle + Akashi Kaikyo Bridge 1 วัน
Kobe 1 วัน
1. Himeji Castle
ปราสาทฮิเมจิ คงไม่มีใครไม่เคยได้ยิน
ที่นี่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วยนะ
2.Iyo Udon
ร้านนี้ขายอูด้งอย่างเดียว ราคาดี รสชาติเยี่ยม
แถมคนต่อคอวเยอะมาก แต่รอแปปเดียวนะ
ใครไม่อิ่มก็มีของทอดให้แอดเพิ่ม โออิชิ!!~
3.Arashi Kaikyo Bridge
สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกก นึกว่าไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นซะอีก
เห้ยแกรร!! มันดีอะ อากาศดี บรรยากาศดี มานั่งชิวเล่นๆก็ได้นะ
แต่ถ้ามาช่วงที่เค้าเปิดให้ทัวร์ขึ้นสะพาน ยิ่งดีใหญ่ แต่เราพลาดด!!
“Kobe”
1.Kitano Cho
หมู่บ้านฝรั่งเศส
2.ร้าน Steakland
โอ้ย!! อร่อยลื้มมมมมมมม โคตรดี ดีมากๆ เห็นรูปก็น้ำยายไหยแย้วงะ ><
3.ร้านヒステリックジャ
ร้านนี้เป็นร้านข้างทางขายเครป คืออร่อยมาก
เนื้อดี นุ่ม ไม่หวาน ไม่เลี่ยน ถ้ามีเวลาอีกสักหน่อย จะกินให้ครบทุกรสเลยยยย
4.MT. Rokko
ถ้าอยากมาเที่ยวโกเบแล้วเห็นวิวทั้งเมืองแล้วละก็..
แนะนำที่นี่เลย คือดียยย์มากกก ชอบมากๆวิวดีสุดๆ
ใครจะไปให้เตรียมเสื้อผ้าหนาๆมาด้วยน้า
ยิ่งสูงยิ่งหนาว เพิ่งเข้าใจคำนี้แหละ มันสะท้านไปทั้งตัวเลยจริงๆ
5.Kobe Harborland
แลนด์มาร์คอีกที่ที่ทุกคนต้องมา!!
>>WAKAYAMA<<
“วะกะยะม่า”
อยู่ทางตอนใต้ของแถบคันไซ และเป็นจังหวัดที่โอมล้อมไปด้วยทะเล
เพราะฉะนั้น ของกินที่ขึ้นชื่อ ต้องเป็นอาหารทะเลอย่างแน่นอน
และก็ยังถือว่าเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีศาลเจ้าอยู่เต็มไปหมด
จึงเป็นแลนด์มาร์กสำหรับผู้แสวงบุญของคนญี่ปุ่นด้วย
แต่อีกหนึ่งอย่างที่พลาดไปไม่ได้ กับความมุ้งมิ้งของสถานีรถไฟ
ที่มีนายสถานีเป็นแมว ปลา บ๊วย และของเล่น ที่ตกแต่งน่ารักมากๆๆ
โด่งดังไปทั่วโลก ทำให้นักท่องต่างแวะมาเยี่ยมชมสถานีรถไฟที่นี่กันมากมาย
ที่นี่ เรามา One day Trip แบบเบาๆ แต่ก็ดีต่อใจไม่ใช่เล่น
1.ศาลเจ้า淡嶋神社
ศาลเจ้าที่นี่มีตุ๊กตาเยอะมาก หรือที่บ้านเราเรียกว่ากุมารแหละ
2.ร้านอาหาร満幸商店
หลังจากเสร็จจากศาลเจ้า淡嶋神社 เดินออกมาก็จะเจอร้านอาหารร้านนี้
บอกเลยเด็ดสุดไรสุด อร่อยทุกอย่าง ซุปกิมจินี่สั่งทุกโต๊ะ อร่อยมากกก
3.和歌山駅 9番のりば
ที่นี่มีรถไฟน่ารักๆ สลับเปลี่ยนวนรอบกันไปทั้งวัน
ที่คนอยากมาเจอสุดคงเป็นรถไฟแมวกับสถานีรถไฟแมว
ซึ่งเราไปไม่ทัน เลยเจอแต่ บ๊วย ของเล่น และสตอเบอร์รี่
4.ร้าน中華そば専門店 井出商
เค้าว่าร้านนี้เป็นร้านราเมนแชมเปี้ยน คือร้านเล็กมากๆ
ต้องนั่งเบียดๆกัน มีคนมาต่อคิวหน้าร้านตลอดๆ
แต่คอยไม่นาน รสชาติอร่อย ลองเถอะ! ไม่เสียหาย
>SHIGA<<
“ชิกะ”
“Omihachiman Boat Cruise”
เพราะที่นี่แหละทำให้เราแวะมาเที่ยว เที่ยวแบบแว๊บเดียวเท่านั้นแหละ..
นั่งเรือกินลมชมวิวแบบเพลินๆ ประมาณชั่วโมงครึ่ง
แต่ละฤดู ก็จะมีวิวที่เปลี่ยนไป.. เหมือนจะเฉยๆนะ แต่บรรยายกาศโคตรดี!!
ชิวเว่อๆ บอกเลยว่า ถ้าใครมาญี่ปุ่นแล้วเบื่อบรรยากาศเดิมๆ
กินๆ เดินๆ ช็อปปิ้ง เจอคนไทยเยอะๆ ที่นี่แหละ จะทำให้ใครหลายๆคนหลงรัก
>Osaka<<
“โอซาก้า”
ในแถบคันไซ จังหวัดที่เด่นที่สุดก็ต้องเป็นโอซก้านี่หล่ะ
เราใช้เวลาอยู่ในโอซาก้า 3 วัน โดยแบ่งไว้ว่าเป็น
Universal Studios Japan 1วัน
เที่ยวในเมือง 1 วัน
ชิวๆคาเฟ่ 1 วัน
1.Universal Studios Japan
เนื่องจากเราตั้งใจไว้ว่า ต้องมาให้เห็นธีม Halloween ให้ได้
เราก็เลยไปวันสุดท้ายที่เค้ามีธีม Halloween กันนั้นแหละ 6/11/2559
แต่จุดพีคที่สุดของที่พีคที่สุดมันอยู่ที่คน
โอโหหหหห!! ล้านแปดมากๆๆ เดินแบบคนชนคน มีคนทุกที่ ทุกจุด
เครื่องเล่นต่อนานสุด 4 ชั่วโมง ขนาดห้องน้ำยังต้องต่ออะ คิดดู..
แต่ก็ทำให้เราเห็นว่า คนญี่ปุ่นเค้าก็อินกับเทศกาล Halloween เหมือนกันนะ
แต่ละคน แต่งตัวกันมาแบบจัดเต็มมากก ยิ่งตกกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่
จะมีพวกผี ออกมาเดินมาวิ่งตามทาง มาแกล้งมาหลอกมาทำให้เรากลัว แต่เราว่าสนุกดีอ่ะ ชอบๆๆ
2.Osaka Takoyaki Museum
หลังจากที่เหนื่อยที่วิ่งหนีผีกันเสร็จแล้ว เราก็เดินอออกมาจาก USJ
ทางข้างหน้ามี ทาโกะยากิมิวเซียมอยู่
เหมือนเป็นแหล่งที่รวมร้านทาโกะยากิเจ้าดังเอาไว้ที่นี่
ก็อร่อยดีนะ ทาโกะยากิบ้านเค้าจะไส้เหลวๆ กรอบนอกนุ่มใน ไม่เป็นก้อนแป้งเหมือนที่ไทย
3.ร้าน 日本一の串かつ 横綱 新世界本
ร้านนี้อยู่ย่านซินเซไก และอาหารที่ขึ้นชื่อในย่านนี้
ที่มาแล้วต้องกินก็คือ Kishikatsu (คุชิคาสึ)
เป็นพวกเนื้อทอด ผักทอด เป็นไม้ๆ จิ้มกับน้ำจิ้ม ก็อร่อยดี มาแล้วต้องมาลอง
ร้านนี้มีอาหารจานยักษ์ด้วยแบ่งกันกินหลายๆคนได้
แบบจานเดี๋ยวก็มี ร้านเปิด 24 ชั่วโมง
คือดีมาก จะช็อปปิ้งดึกแค่ไหน ก็มาร้านนี้ต่อได้ 555
4.Osaka Castle
ประสาทโอซาก้า ที่นี่ก็เป็นอีก 1 สถานที่แลนด์มาร์ค
ถ้ามาแล้วอยากจะเข้าไปชมสักหน่อย
ส่วนของข้างในก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นมา
ส่วนชั้นบนก็จะเป็นพื้นที่ให้ชมวิวสวยๆ
5.ร้าน 元祖ぶっち切り寿司 魚心 本店 / Uoshin / ซูชิหน้าล้น
เป็นร้านซูชิเจ้าดังสำหรับคนไทยที่อยู่ในแหล่งช็อปปิ้งอีก 1 ร้าน รสชาติใช้ได้
6.Umeda Sky Building
เห้ย!! ที่นี่ดี้ดีเลยแหละ..สวยมากๆ เป็นจุดชมเมืองอีกมุมที่มองได้รอบ 360 องศา
บวกกับอากาศเย็นๆ เดินชิวๆ สบายๆ ถ่ายรูปเรื่อยๆ
โอโห!! อยู่ได้ทั้งคืนอะ พูดเลยยย ชอบม๊ากกกกกกกก
7.ร้าน Kiji Okonomiyaki
ร้านโอโคโนมิยากิเจ้าดัง สำหรับคนไทยอีกเช่นกัน
ที่นี่มีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะมากๆ แต่เราคิดว่าคนไทยนี่แหละเยอะสุดล่ะ
เพราะเราเดินเข้าไป พอถามว่าเป็นคนอะไร? หิวมากน้อยแค่ไหน?
เค้าก็จัดเมนูให้เราเสร็จสรรพเลย ส่วนรสชาติ อร่อยมากกก
สมกับชื่อเสียงอันโด่งดัง เอ้ะ! หรือหิว #น่าจะทั้งคู่
อยากจะกลับไปกินอีกรอบ แต่เค้าจะผัดแบบแห้งๆไม่เหมือนที่ไทยนะ
8.Numba Street / Dontonbori / Shinsaibashi
แหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า จะอยู่ติดๆกัน
เดินได้เรื่อยๆ มีทั้งขายของ และร้านอาหารอยู่เต็มไปหมด
9.ร้าน Ichiran
ร้านราเมนข้อสอบที่คนไทยรู้จักกันดี
เห้ย แกรรร มันอร่อยมากจ้า เราไปโดน 2 รอบเลยนะ อิอิ
10.ร้าน Plabo
ชีสทาร์ตเจ้าดังอีกร้าน ที่เพิ่งเข้ามาเปิดขายที่ประเทศไทย
แต่ที่ญี่ปุ่นก็ยังมีคนต่อแถวอยู่ดีเหมือนกัน
ส่วนรสชาตินี่เยี่ยมเลย ไม่เลี่ยน ไม่หวาน กินได้เรื่อยๆก็หมดเฉยย!!
ส่วนอันนี้ไอศกรีม เราได้ไปลองมาด้วย
อร่อยม๊ากกก เข้มข้น หอมชีส เคี้ยวหนุบหนับ ไม่เลี่ยนมาก
โอ้ยดีเว่อร์ ๆๆ
11.Nakazakicho
ย่านคาเฟ่ มุ้งมิ้ง ฟรุ่งฟริ้ง ที่เราตั้งใจไปหาร้านน่ารักๆนั่ง
ถ่ายรูปชิคๆ มาอวดเพื่อนๆ แต่เผอิ๊ญญญญ ดันฝนตกซะงั้น
จบเลยที่ฝันเอาไว้ ดูแค่นี้ละกันเนอะ เผื่อใครผ่านไป
ก็เอารูปมาฝากกันด้วยละกัน บอกด้วยนะว่าอร่อยมั้ยอะ !!
12.カヌレ堂 CANELÉ du JAPON
ร้านนี้อยู่แถวๆ JR-Numba เดินประมาณ 15 นาที
คาเนเล่เป็นขนมอบแบบสไตล์ญี่ปุ่นเป็นขนมชิ้นเล็กๆ
มีหลายรสชาติให้เลือก น่าตาน่ารักแถมยังอร่อยอีกด้วยน้า
จบแล้ว สำหรับทริป Kansai ของเรา
เป็นยังไงบ้างคะ ?
ดูรูปเพลินๆ แล้วชวนอยากให้เพื่อนๆอยากไปเที่ยวเหมือนเราหรือเปล่าน้าาา…
เอาจริงๆ คนชอบเที่ยวหรือนักเดินทาง ก็ควรไปเยือนญี่ปุ่นซักครั้งแหละ
เพราะเป็นอีก 1 ประเทศที่ได้ประสบการณ์ครบครันดีเหมือนกัน
ทั้งการเดินทางสะดวก อาหารอร่อย ของใช้ก็ดี
ทำให้คุณภาพชีวิตเค้าดี้ดียยยย์จริงๆ
อะ..ถึงเวลาทำงานวนต่อไป จะได้มีเงินจองตั๋วทริปหน้า!! 555
และทริปหน้าเราจะไปที่ไหน ฝากติดตามด้วยน้าา
ขอบคุณสำหรับทุกๆคนที่ติดตาม Blogger ตัวเล็กๆอย่างพวกเรา TRIP’LE 
CONTACT
FACEBOOK : https://www.facebook.com/tripleXanywhere/
IG : @triplexanywhere
TRIP’LE x JAPAN #TRIPLExJAPAN
Leave a Reply