TRIP’LE x MAHANAKHON BANGKOK SKYBAR

มาชวนเปลี่ยนมื้อดินเนอร์ธรรมดาๆให้เป็นมากกว่า..
การทานข้าวนอกบ้าน! และในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแล้ว
Mahanakhon Bangkok SkyBar ห้องอาหารและบาร์
ที่สูงที่สุด พร้อมอาหารที่ฟินที่สุด และวิวที่ตราตรึงที่สุด
ตั้งอยู่บนตึก King Power Mahanakhon ใจกลางสาทร!พอจะเห็นในโซเชียลกันบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะกับSkyWalk
ด้านบนที่เป็นกระจกลอยฟ้าที่มองลงไปแล้วใจหวิวๆ
วิวแบบ 360 องศา ที่สามารถเห็นไปจนถึงเส้นขอบฟ้า
และวันนี้เค้าก็เพิ่มความฟินเข้าไปอีกโดยมีร้านอาหาร
และบาร์ให้ทุกคนได้มาสัมผัสรสชาติอาหารจากเชฟ
ฝีมือดีอย่าง Joshua Cameron ผู้ที่หลงใหลในศาสตร์
ของการทำอาหารและมีประสบการณ์มามากกว่า 15 ปี!
แถมยังการันตีฝีมือจากห้องอาหารชื่อดังระดับมิชลินสตาร์
ในนิวยอร์กอีกด้วย ที่ชอบก็คือเค้าเน้นเมนูตะวันตกและ
เอเชียผสมผสานกัน แอบกระซิบว่า “อูนิพานาคอตต้า”
ละมุนลิ้นมากมากก เนื้อที่กริลล์หอมๆ เสิร์ฟพร้อมคูสคูส
ทานคู่กับค็อกเทลสดชื่นๆ เพลิดเพลินไปกับวิว 360 องศา
อ้ะ!คอจิบไวน์ทั้งหลาย บอกเลยว่าที่นี่มีไวน์ถึง 100 ชนิด
รออยู่ด้วยนะจ๊า ยั่วมากกกก อ๊ออีกอย่างคือห้องอาหาร-
ตั้งอยู่บนชั้น 76และ77 มี 2 โซนคือ Indoor และ Outdoor
แอบอยากให้เห็นภาพไปด้วย เดี๋ยวจะไปเล่าใต้ภาพแทนนะ

ถึงจุดนี้เราก็อยากให้ภาพเป็นตัวเล่าเรื่องต่อแทนแล้วล่ะ
ถึงเวลาไปดื่มด่ำกับอาหาร วิว และเสียงหัวเราะอร่อยๆ
กับคนพิเศษ พร้อมสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดด้วยกัน

Welcome to Mahanakhon Bangkok SkyBar
Thailand’s highest restaurant and bar.เปิดแล้ว! ห้องอาหารและบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ตึก King Power Mahanakhon ใจกลางสาทร ซึ่งง่ายกับคนที่มารถไฟฟ้ามากๆ เชื่อมกับสถานีช่องนนทรี เลยจ้า สะดวกมากก

เอาวิวมาเรียกน้ำย่อยก่อน

/
Open Daily : 17.00 – 01.00
Booking : www.mahanakhonbangkokskybar.com
Call : 02-677-8722
Address : King Power Mahanakhon, 114 Narathiwas Road (next to BTS Chongnonsi) 10500 Bangkok, Thailand.

/
มาทำความเข้าใจกันสักนิด?
คิงพาวเวอร์ มหานคร (King Power Mahanakhon) มี 4 ส่วนด้วยกันคือ..
1.Super Luxury Residence
2.Duty Free
3.Mahanakhon SkyWalk
4.Mahanakhon Bangkok SkyBar

และข้อ 4 นั้นก็คือร้านอาหารเปิดใหม่ชื่อว่า มหานคร แบงค์คอก สกายบาร์ (Mahanakhon Bangkok Sky Bar) นั่นเอง ซึ่งเป็นร้านอาหารที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ชั้น 76 ใช้ทางเข้าเดียวกันกับ Mahanakhon Skywalk

ความพิเศษคือ **คนที่มาทานอาหาร ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าที่จะขึ้นไปดูวิวบน Skywalk นะจ้ะ**

แล้วถ้าเกิดซื้อตั๋วขึ้นไปดูวิว แล้วอยากทานอาหารขึ้นมาล่ะ?
คำตอบก็คือ : คุณก็จะได้รับส่วนลด 10% ไปเลยทันที ?

ชั้นนี้คือชั้น 78 ซึ่งสูงถึง 314 เมตรจากด้านล่าง โอ้ยวิวดีมากๆ เห็นรอบเมืองไม่มีตึกอื่นมาบังเลย

/สั่งเครื่องดื่มรอแปปค่ะพี่ตา

ทีเด็ดเลยจานนี้! พานาคอตต้าหอยเม่น (Uni Panna Cotta) *** ขอแนะนำ ***

แค่ทางขึ้นก็ตื่นเต้นแล้ว!

เป็นการเปิดตัวที่อลังการมาก เดินเข้ามาแล้วเป็นอุโมงค์ พอถึงปุ๊ปคือเหมือนยืนอยู่บนท้องฟ้า ได้ฟิลแบบประสบการณ์ครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!!

ก็คือนับตั้งแต่ก้าวแรกที่ผ่านโค้งประตูไม้ เผยให้เห็นการตกแต่งภายในที่ประณีต ประดับประดาด้วยโคมไฟเข้ากับหน้าต่าง กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน และพบกับทิวทัศน์สุดอลังการ สวยงามมาก กลายเป็นภาพจำไปโดยปริยาย

และนี่ก็คือด้านในของร้านอาหารชั้น 76 การตกแต่งผสมผสานความหรูหราสง่างามแบบฝรั่งเศส กับความวิจิตรแบบไทย ที่ล้อมรอบด้วยกระจก โดยเราจะเห็นวิวที่สวยอลังการอยู่รายล้อมเสมือนโอเอซิสบนท้องฟ้า

โดยทุกการตกแต่งของห้องอาหารแห่งนี้ ล้วนเล่าเรื่องราวของนักเดินทางที่ชอบผจญภัย ตกแต่งด้วยหนังสือโบราณจากฝรั่งเศส เครื่องปั้นดินเผาชั้นดีจากญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่เป็นของหายากมีราคา หรือมีเพียงชิ้นเดียวในโลก! นำมาประกอบกันจนเป็นห้องอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ

พานาคอตต้าหอยเม่น (Uni Panna Cotta)

รักจานนี้มาก! ถึงต้องกินแบบละเมียด เพราะไม่อยากให้หมดเลย เมนูนี้เกิดจากการผสมผสานกันของวัตถุดิบจากญี่ปุ่น และเทคนิคของการทำอาหารจากฝรั่งเศส บนจานมีทั้งอูนิ ไข่ปลา และพานาคอตต้า ราดด้วยซอสพอนสึโดยรอบ เป็นTexture ที่ให้ความรู้สึกเนียนนุ่มละลายในปากเหมือนพุดดิ้ง ท็อปด้วยสาหร่ายกรุบกรอบ ลงตัวสุดๆ

Andaman Sea Bass (Nahm Jim Emulsion/ Lemon Grass)

ปลากระพงอันดามันซีบาสที่ย่างบนเตาถ่าน สอดแทรกด้วยสมุนไพรไทยของบ้านเราเองได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกสด ฯลฯ เสิร์ฟคู่กับดอกกะหล่ำนำไปกริลล์แล้วอบ ราดด้วยเดรสซิ่งจะเป็นซีฟู้ดครีมซอส

เนื้อปลากระพงนิ่ม และหอมมาก อบอวลไปด้วยสมุนไพรไทย เป็นอีกจานนึงที่อยากให้ลอง

48-Hour Australian Short Ribs (Cous cous/ Grape/ Eggplant)

และ Main Course ของเรา ท๊าดาาา! เนื้อตุ๋น แล้วก็นำมาย่างต่อบนเตาถ่าน เพิ่มความหอมหวนชวนรับประทานเข้าไปอีก ทานคู่แปะก๊วย มะเขือ องุ่น และคูสคูส (เม็ดๆสีเหลืองบนจาน) หลายคนอาจส่งสัยว่าคูสคูสคืออะไร? สิ่งนี้อยู่ในตระกูลพาสต้า เป็นข้าวสาลีที่บดจนเป็นเม็ดเล็กๆ ที่สำคัญคือแคลอรี่ต่ำ สาวๆที่ลดเชฟกันอยู่พอดีน่าจะถูกใจไม่น้อยเลยล่ะ

ชอบที่แสงแดดยามบ่ายแก่ๆ – ช่วง 5 โมงเย็นสาดส่องมา รับกับเฟอร์นิเจอร์สีไม้ผสมพาสเทล ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูเป็นมิตรมาก

ในส่วนของบาร์นั้น..เชฟที่นี่นอกจากจะพรีเซ็นท์เรื่องอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เค้ายังหลงใหลในศาสตร์ของเครื่องดื่มด้วยเช่นกัน จึงได้สร้างสรรค์สูตรค็อกเทลที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รอให้ทุกคนมาชิมกันอยู่นะ

Negroni (แก้วด้านซ้ายล่าง)
Bellini (แก้วสีชมพูด้านบน)
Clover Club (แก้วที่มีเชอร์รี่)3 ผ่าน ไปเลยจ้า!
ค็อกเทลที่นี่ดื่มง่าย แต่ละแก้วมีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งหมด สาวๆที่ชอบดื่มแบบเบาๆ จิบคู่กับมื้อดินเนอร์คู่กันให้กลมกล่อม ขอให้ลอง Bellini และ Clover Club แต่ถ้าชอบเข้มหน่อยก็จัดไปเลยกับ Negroni

enjoy naaaa

และก็มีในส่วนของโซนวีไอพี ใครที่อยากมีไพรเวทปาร์ตี้งานวันเกิด หรือมีทติ้งเล็กๆแบบส่วนตัว ก็สามารถจองล่วงหน้ากันได้

Kaffir Lime Cheese Cake (Passion fruit/ Mango/ Mangosteen)

ชีสเค้กทำเองทุกกระบวนการ! อิ่มอวนไปด้วยความหอมละมุนของครีมชีส ส่วนด้านบนจะผสมผสานกันระหว่างมังคุด เสาวรส และมะม่วงเข้าด้วยกัน

ปิดท้ายแบบฟินสุดๆ

ห้องน้ำยังสวยเลย ยอมในความปราณีตทุกๆมุมของที่นี่ คือเค้าอยากให้แขกที่มาใช้บริการได้รู้สึกถึงความใส่ใจ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เสพย์ไอเดียงานตกแต่งบ้านไปแบบอิ่มเลยล่ะ!

อีกโซนที่ชอบมากกกก

เดินออกมาจากห้องอาหารก็จะพบกับ พื้นที่กลางแจ้งด้านนอกที่เนรมิตให้เป็นบรรยากาศป่าดงดิบ เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในป่ากลางท้องฟ้า ซึ่งได้รับการออกแบบโดยทีมนักตกแต่งภายในระดับโลก Tristan Auer แห่ง Wilson Associates’ Paris Atelier ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางออกจากเมืองสู่โลกของการผจญภัยแบบไม่รู้จบ เหมือนนักเดินทางแบบพวกเรายังไงล่ะ!