TRIP’LE x DE CAPOC : BEST PLACES FOR A TRULY RELAXING BREAK.

วิลล่าไม้บล็อคสี่เหลี่ยมหลังนี้ เป็นที่พักอันแสนสุข
สบายในยามร่างกายต้องการความรีแลกซ์ขั้นสุด
ใครว่าหน้าฝนไปเที่ยวภูเขาแล้วไม่สนุก เฉอะแฉะ
บอกเลยว่าหน้านี้แหล่ะเหมาะกับการอยู่ท่ามกลาง
ธรรมชาติและแมกไม้นานาพันธุ์เป็นที่สุด ก็เพราะ
ความชะอุ่มชุ่มชื้นของต้นไม้ใบหญ้า ที่รับกับอากาศ
อันบริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดทั้งปี ล้อมรอบไปด้วย
หมอกปุกปุยยามเช้า ที่เพิ่มเสน่ห์ให้ที่พักแห่งนี้อีกด้วย
และคำว่า De capoc เค้าแปลว่า ‘ณ ปุยนุ่น’
เนื่องจากเค้าอยากจะสื่อถึงความสบาย เบา เหมือน
ปุยนุ่น หรือหมอกที่เขาค้อ เหมาะกับคนที่อยากชาร์จ
พลังงานให้กับตัวเองแต่มีเวลาไม่เยอะ อย่างเราเป็นต้น
เหมือนแค่ย่างก้าวก็รู้สึกได้ถึงการพักผ่อนแบบเต็มสูบ
ก็เป็นอีกตัวเลือกที่อยากให้ลองมาสัมผัสกันดูเด้ออ
ไม่อยากออกไปไหน ก็แค่นอนเหยียดแข้งเหยียดขา
บิดขี้เกียจไปอีก10ตลบ หาNetflix มันส์ๆซักเรื่องดู
แช่อ่างจิบไวน์กับสุดที่รัก เลื่อนม่านเปิดหน้าต่างออก
แล้วนอนดูท้องฟ้าและทุ่งหญ้าที่อยู่ตรงหน้านานๆ

พอ! อธิบายเบอร์นี้แล้ว อยากเห็นภาพให้ชัดกว่านี้
ต้องไปสัมผัสเอง เมืองไทยมีอะไรสวยๆอีกเยอะ
อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 ตื่นไปดูหมอกกันด้วยล่ะ
ไหนใครไปโดนเขาค้อมาแล้ว มาอวดทะเลหมอกหน่อย
หรือใครที่กำลังหาที่พักอยู่พอดี อีกทางเลือกนึงที่ดี๊ดี
มาลองที่ดีกันดูได้ นอนหลับสบายแน่นอนร้อยเปอร์

/map
กรุงเทพฯ > พิษณุโลก > เขาค้อ (De Capoc Resort)

เราเดินทางโดยเครื่องบิน ไปลงพิษณุโลก
แล้วก็เช่ารถขับต่อไปจนถึงเขาค้อ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

เปิดม่านให้สุด แล้วนอนนิ่งๆซัก 10 นาที..
อยากจะกดพอสเวลาไว้ซัก3วันจริงจริ๊งงงง

ปล.อันนี้ห้องในส่วนของวิลล่าเด้อ

รีสอร์ทแห่งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ
1.Deluxe
2.Villa

ในภาพนี้คือโซนDeluxe ซึ่งห้องกว้างมาก
มาแบบแฟมิลี่ก็สบายๆเลย มีพื้นที่ให้เด็กๆแน่นอน
และทุกห้องมีระเบียงที่เปิดออกมาเห็นวิวทั่วถึงกันหมดอีกด้วย

ชอบสีผนังมาก ตอนแรกก็นึกว่าเค้าเลือกทาสีนี้ เอ้าเปล่า!
สีผนังเค้าเรียกกันว่า ‘สีผนังดิน’ ใช้ดินที่ตั้งรีสอร์ทมาผสม
ฉาบเป็นผนังสีธรรมชาติ เลยออกมาได้เป็นสีนี้ ลงตัวเฉย..
สีดีเฉย.. เนื่องจากความอยากให้สอดคล้องและ
มีเรื่องราวระหว่างสถานที่กับโรงแรม สถาปนิกเค้าจึงใช้ใบต้นค้อ (ที่มาชื่อเขาค้อ)
และดินธรรมชาติมาใช้ในการออกแบบโรงแรมซะส่วนใหญ่นั่นเองจ้า

พักผ่อนในห้องจนอิ่มเอมใจแล้ว
ก็สามารถย้ายร่างตัวเองมารีแลกซ์ริมสระ หรือว่ายน้ำต่อได้เลย

My Stuff of this trip.
-Swimwear from swimware shop
-Rope bag from s.mondaymonday
-Slipper from sallysunday.co
-Samsung Galaxy S9+
-Lip Balm from Glossier
-Matte lip from 3CE

ที่ยื่นออกมาจากบ้านนั้นคือตาข่ายเอาไว้นอนกลิ้งเกลือก
และแอบรู้มาว่าเหล็กเหนือเปลตาข่ายวิลล่า
เค้าใช้รูปแบบหยักของใบค้อมาออกแบบด้วยนะ
คือนำมาเชื่อมต่อกับสถานที่ไปหมดมี ชอบความมีstory

วิวจากสวนข้างบ้าน

อย่างที่บอกว่าโรงแรมนี้ให้อยู่ทั้งวันไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ทำได้!
นี่ออกไปนั่งเล่นในสวนอย่างชิลล์ อากาศเย็นๆ
ครึ้มหมอกครึ้มฝน สดชื่นอย่าบอกใคร

อีกหนึ่งในส่วนของให้วิลล่าที่ชอบมากคืออ่างจากุซซี่ที่ทำเสมือนอยู่ในบ้าน
แต่จริงๆคือเค้าทำเป็นโซน Outdoor ขนาดเล็กให้แสงแดดส่องลงมาได้
ครีเอทเพิ่มโดยการปลูกต้นไม้ไว้ตรงกลาง ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด
และปลอดโปร่งมากตอนลงไปแช่อ่าง แฮปปี้สุดๆ